Thursday, August 30, 2012

ไก่ต้มน้ำปลาเงินล้าน

  
 

ด้วย ระยะเวลาเพียง 2 ปี จากไก่ต้มน้ำปลาหน้าตาธรรมดา ถูกปรับปรุงรสชาติด้วยการคิดค้น และลงมือปรุงน้ำซอสสูตรพิเศษโดยเจ้าของกิจการ ซ้ำทำการตลาดดี ความต่างนี้ ทำให้จากไก่บ้านๆ ยอดขายพุ่งพรวด ราวเดือนละ 2,000 ตัว

เส้นทาง เศรษฐี ปักษ์นี้ จะพาไปทำความรู้จักกับ คุณนิธินาถ ศิรินอก หรือ คุณเอ๊าะ เจ้าของกิจการไก่ต้มเงินล้าน จากไก่ที่เคยวางขายเรียบๆ ตามตลาดนัด วันนี้ผงาดขายเฉพาะในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ และตามงานอีเว้นต์ สร้างรายได้เดือนละหลายแสนบาท ที่มาที่ไปเป็นอย่างไรต้องติดตาม
คุณ เอ๊าะ เล่าประวัติส่วนตัวให้ฟังว่า จบการศึกษาคณะรัฐศาสตร์การปกครอง ทำงานแวดวงบริษัทไฟแนนซ์ร่วม 10 ปี กระทั่งปี 2542 เศรษฐกิจฟุบ ส่งผลให้บริษัทการเงินกว่า 56 บริษัทล้ม และเป็นหนึ่งในพนักงานที่ถูกเลย์ออฟ เลยตัดสินใจกลับบ้านเกิดที่จังหวัดนครราชสีมา ทำงานที่สุดท้ายอยู่ฝ่ายสำนักงานโรงแรมแห่งหนึ่ง

เป็นเวลาเกือบ 20 ปี ที่คุณเอ๊าะสวมบทบาทพนักงานประจำ หญิงสาวเผย เกิดความรู้สึกอิ่มตัว อยากมีกิจการเป็นของตนเอง และเนื่องจากมองว่าอาหารเป็นปัจจัยพื้นฐานการดำรงชีวิต ประกอบกับได้รับคำแนะนำจากเพื่อนสามี เลยตัดสินใจขายเมนูไก่ต้มน้ำปลา “ตอนกำลังมองหาอาชีพใหม่ เพื่อนสามีซึ่งขายไก่ต้มน้ำปลาที่จังหวัดเลย เขาให้เข้าไปเรียนรู้กรรมวิธีการทำ และขั้นตอนทั้งหมด 1 วัน เลยได้เห็นข้อดีของกิจการ ว่ามีกระบวนการทำที่ไม่ยุ่งยาก ใช้พื้นที่น้อย สามารถทำได้ตามลำพัง และกำไรดี เลยตัดสินใจออกมาเป็นผู้ประกอบการเต็มตัว”

เพียง ได้เข้าไปสัมผัสกิจการของเพื่อน 1 วัน เหตุใดคุณเอ๊าะถึงกล้าเสี่ยงยอมออกจากงาน เธอบอกว่า ตอนนั้นไม่ได้ตั้งเป้าหมายอะไรมาก แค่เห็นว่าไก่ต้มน้ำปลาสามารถทำเงินได้ไม่ยุ่งยาก และจากที่ได้เข้าไปศึกษากระบวนการทำทั้งหมด เห็นว่าเมนูนี้ทำง่าย ขายได้กำไรดี ขนาดเพื่อนเรียนจบปริญญาโทหน้าที่การงานดี ยังออกมาขาย ฉะนั้น คิดว่าต้องไม่ธรรมดา เลยอยากจะลองดู
ราวปี 2549 ที่คุณเอ๊าะผันตัวมาเป็นแม่ค้า เธอเผยว่า ใช้เงินลงทุนซื้ออุปกรณ์ประมาณ 50,000 บาท ตระเวนขายไก่ต้มน้ำปลาตามตลาดนัด จนกระทั่งวันหนึ่งอยากปรับปรุงรสชาติ เลยคิดค้นสูตรเอง “ไก่ต้มน้ำปลาที่ขายเป็นสูตรของเพื่อน เรารู้สึกไม่ชอบกลิ่นและรสชาติ เลยหันมาทำน้ำซอสเอง แต่กว่าส่วนผสมทุกอย่างจะคงที่ ใช้เวลา 1 ปีเต็ม”

ถาม ว่าสูตรใหม่แตกต่างจากสูตรเดิมอย่างไร แล้วคุณเอ๊าะได้สูตรนี้จากไหน เจ้าของร้านบอกว่า ไก่ต้มน้ำปลาทั่วไป มีส่วนผสมหลักคือ น้ำปลา น้ำตาลทราย บางร้านเพิ่มกลิ่นหอมด้วยผงพะโล้ สำหรับสูตรที่คิดขึ้น ไม่ได้ไปเรียนรู้เพิ่ม อาศัยประสบการณ์ที่ขายมาล้วนๆ บอกได้แค่ว่า มีเกลือกับน้ำตาลทราย ไม่มีซีอิ๊ว และน้ำปลา ส่วนผสมอื่นขออุบไว้เป็นความลับ
เรียก ว่าคุณเอ๊าะเอาเฉพาะแนวคิดการทำธุรกิจ และกรรมวิธีทำไก่ต้มน้ำปลาจากเพื่อน แต่ปรับเปลี่ยนรสชาติใหม่ ตรงนี้เป็นผลดี เพราะนับจากนั้นเป็นต้นมา กิจการของเธอดีขึ้นตามลำดับ โดยเจ้าของกิจการ ขยายความว่า ประเดิมขายไก่ต้มสูตรใหม่ ที่งานซีเกมส์ ครั้งที่จัดขึ้นที่จังหวัดนครราชสีมา หรือประมาณ ปี 2550 ลูกค้าคนไทย และต่างชาติ อาทิ มาเลเซีย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ เข้ามาอุดหนุนพร้อมให้คำชม ส่งผลถึงยอดขายเป็นที่น่าพอใจ

จบงาน ใหญ่ครั้งนั้น กิจการคืนสู่สภาพปกติ คือ ทั้งคุณเอ๊าะและสามียังคงกลับมาขายไก่ต้มในตลาดนัด แต่ทั้งคู่บอกว่า หลังใช้สูตรใหม่ ยอดขายเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว ค้าขายเรื่อยมาจนกระทั่งวันหนึ่ง คุณแหม่ม พี่สาวของสามีซึ่งเก่งด้านการตลาดได้ลองชิมไก่ต้มดังกล่าว ถึงกับเอ่ยปากชมว่าอร่อย และบอกว่าไก่รสชาติดีแบบนี้ ไม่ควรจำกัดพื้นที่ขายอยู่แต่ในตลาดนัด น่าจะลองไปขายคนกรุงเทพฯ ที่มีกำลังซื้อ
นั่นคือจุดพลิกผันของกิจการไก่ต้มขนาดเล็ก เพราะคุณเอ๊าะมาตามคำชักชวนของพี่สามี แต่เนื่องจากเธอยังไม่มั่นใจ เลยใช้วิธีสลับขายระหว่างกรุงเทพฯ กับนครราชสีมา อยู่ 2 ปี “ครั้งแรกที่มาขายไก่ต้ม เริ่มที่ห้างสรรพสินค้า เดอะ มอลล์ โดยพี่แหม่มเป็นคนจัดการเรื่องสถานที่ ขายได้ 2 ปี รายรับเกินความคาดหมาย เลยหันมารุกตลาดคนเมืองแบบเต็มตัว”

เมื่อสองสามีภรรยา คิดจะทำตลาดในพื้นที่คู่แข่งขันสูงมาก คุณเอ๊าะเลยงัดเอากลยุทธ์ นอกจากรสชาติที่ดี ยังหันมาใช้ไก่เกรดพรีเมี่ยม เป็นไก่เอสเพียว (S-Pure) เลี้ยงด้วยอาหารธัญพืช ปลอดภัยจากสารเร่งทุกชนิด ของเบทาโกร น้ำหนักตัวเฉลี่ย 1.5-1.6 กิโลกรัม เพื่อจับกลุ่มลูกค้าระดับบน “ไก่ต้มลักษณะนี้มีขายเยอะมาก โอกาสเติบโตน้อย เราเลยหันมาขายคนที่มีกำลังซื้อ ด้วยการเลือกใช้วัตถุดิบเกรด A ทุกอย่าง เพราะคนกลุ่มนี้ยอมจ่ายเพื่อให้ได้สินค้าดี มีคุณภาพ และรสชาติอาหารอร่อย”
ความแตกต่างของไก่ รสชาติ และทำการตลาดดี เจ้าของสินค้า ระบุว่า ส่งผลให้กิจการรุดหน้าไปอย่างรวดเร็ว ชนิดออกงานอีเว้นต์ และห้างสรรพสินค้าเกือบทั้งเดือน ตรงนี้เลยเกิดคำถาม เหตุใดจึงไม่มีหน้าร้าน และฐานะผู้ประกอบการจะทราบได้อย่างไรว่าสถานที่ใดมีงาน

คุณเอ๊าะ ตอบว่า ณ ตอนนี้ยังไม่คิดเปิดหน้าร้าน เนื่องจากขายนอกสถานที่ มีข้อดีได้เปิดหูเปิดตา พบเจอลูกค้าที่หลากหลาย ส่วนเรื่องติดต่อสถานที่จำหน่าย พี่แหม่มจะรับผิดชอบเพียงผู้เดียว แต่คร่าวๆ มี 2 วิธี คือ นำสินค้าไปเสนอกับเจ้าของพื้นที่ และส่วนหนึ่งมีติดต่อเข้ามาเอง

คลาย ความสงสัยเรื่องสถานที่จำหน่าย ถามถึงยอดขายบ้าง เจ้าของร้าน เผยว่า ทุกวันนี้แต่ละเดือนออกงานประมาณ 7-8 งาน ยอดขายไก่รวมทั้งสิ้นเกือบ 2,000 ตัว แต่เนื่องจากต้องแบ่งค่าการตลาดให้เจ้าของสถานที่ หักลบต้นทุนและค่าสูญเสียทุกอย่าง จะได้กำไร 30 เปอร์เซ็นต์ จากยอดขายแต่ละครั้ง
อีกมุมที่สร้างความโดดเด่นให้แก่อาหารคือ เวลาขายแต่ละครั้ง คุณเอ๊าะจะใช้วิธีต้มไก่ในน้ำซอสให้ลูกค้าเห็น นอกจากได้สัมผัสความสดของไก่แล้ว ยังส่งกลิ่นหอม ทำให้ผู้ที่เดินผ่านไปมาอดใจไม่ไหวเข้ามาลองชิม และควักเงินในกระเป๋าซื้อในที่สุด

ทุกวันนี้ แม้คุณเอ๊าะจะมีพนักงาน 5 คน แต่ไม่มีใครได้ล่วงรู้สูตรน้ำซอสของเธอ ซึ่งเจ้าของสูตร กล่าวว่า จะปรุงน้ำซอสเตรียมไว้ใช้ล่วงหน้าเสมอ เพราะเพื่อความอร่อยต้องใช้เวลาเคี่ยวทิ้งไว้อย่างน้อย 1 วัน
กิจการ ไก่ต้มเล็กๆ ที่ระยะเวลาเพียง 2 ปี สามารถเติบโตได้ด้วยยอดขาย และได้รับการกล่าวถึง ถามเจ้าของร้านคิดว่าเป็นเพราะอะไร “เราดำเนินธุรกิจด้วยความจริงใจ ปรุงอาหารเสมือนให้คนในครอบครัวรับประทาน วัตถุดิบทุกอย่างที่ใช้เกรดเดียวกับภัตตาคาร มีพนักงานที่ซื่อสัตย์ และสำคัญที่สุด ได้ฝ่ายการตลาดที่เก่ง”

ถามคุณเอ๊าะถึงอนาคตธุรกิจ จะถูกต่อยอดไปอย่างไร หรือคิดจะขายแฟรนไชส์หรือไม่ เธอบอกว่า เคยได้รับการติดต่อขอซื้อแฟรนไชส์ แต่ทว่าปฏิเสธ เนื่องจากยังไม่พร้อม เกรงว่าจะควบคุมความสดไม่ได้ ส่วนอนาคตข้างหน้า อยากจะเปิดหน้าร้าน แต่ตอนนี้ขอเก็บเกี่ยวประสบการณ์ให้เต็มที่ก่อน
ใครที่อยากชิม รสชาติไก่ต้มอร่อยๆ สโลแกน “ต้มถึงเนื้อ อร่อยถึงน้ำ” ของ คุณเอ๊าะ ติดต่อได้ มีทั้งขายปลีก และขายส่ง นอกจากนั้น ยังรับทำข้าวกล่อง และออกงานนอกสถานที่ สนใจติดต่อ ได้ที่ เลขที่ 23 หมู่บ้านดุลิยา ถนนบางระมาด เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ

ไก่บ้านต้มน้ำปลาอ่างทอง สำหรับเทศกาลสารทจีนและ ตรุษจีน ไก่ต้มน้ำปลาไหว้เจ้าได้





ไก่ต้มน้ำปลาเมนูของฝากที่สร้างชื่อในหลาย จังหวัด

สำหรับสูตรไก่บ้านต้มน้ำปลาอ่างทอง มาจากเจ้แหม่มเจ้าของเป็นคนจังหวัดอ่างทอง และไปได้สูตรไก่บ้านต้มน้ำปลามาจากเจ้าของสูตรเดิม ทำไก่ต้มน้ำปลาขายอยู่หน้าศาลเจ้าแห่งหนึ่งที่จังหวัดอ่างทอง ซึ่งขายดีมากใครได้ชิมก็ต้องแวะเวียนไปซื้อ และสามีเจ้แหม่มเป็นลูกค้าประจำ วันหนึ่งเจ้แหม่มก็ได้ไปขอสูตรไก่ต้มน้ำปลานี้ เพื่อมาทำถวายพระในงานทำบุญบ้าน ซึ่งเจ้าของยินดีถ่ายทอดให้ แต่ขอร้องไว้ว่าห้ามนำสูตรนี้ไปขายให้กับใครเด็ดขาด แต่ถ้าต้องการจะถ่ายทอดให้ใครขอให้เป็นวิทยาทานได้โดยต้องไม่คิดค่าใช้จ่าย ใดๆ

 จุดเริ่มต้นของการได้ออกงานแสดงสินค้ามาจากเจ้าหน้าที่ในกรมการค้า ภายใน ได้มีโอกาสมาชิมและชื่นชอบในรสชาติ และราคาที่ไม่แพง จึงได้ชักชวนให้เข้าร่วมโครงการธงฟ้า และได้ออกขายตามงานต่างๆร่วมกับธงฟ้า ทั่วประเทศ จึงยึดช่องทางการขายในลักษณะของการออกงานแสดงสินค้าต่างๆ ทั้งที่เป็นงานของธงฟ้าและ งานทั่วไป เป็นช่องทางหลัก ส่วนร้านที่มารับไปขายมีเพียงร้านเดียวในย่านปากเกร็ด หรือ ถ้าเป็นช่วงเทศกาลสารทจีนและ ตรุษจีน มีลูกค้าประจำมา สั่ง ไก่ต้มน้ำปลาไหว้เจ้า

 

http://www.thaismefranchise.com/wp-content/uploads/2010/04/kai-tom02.jpg


สำหรับยอดขายในการออกงานแสดงสินค้าเฉลี่ยวัน ละ 700ตัวถึง 800ตัว หรือ กรณีเป็นงานแสดงสินค้างานเล็กๆ ยอดขายอยู่ที่ 300 ตัวถึง 400 ตัวต่อวัน ส่วนยอดขายสูงสุดเป็นช่วงเทศกาลตรุษจีน หรือ สารทจีน ขายได้อย่างต่ำ 2,000 ตัว ไปจนถึง 3,000 ตัว ทั้งนี้ การออกงานแสดงสินค้าที่ผ่านมาส่วนหนึ่งเราเข้าไปติดต่อเอง และส่วนหนึ่งเป็นการได้รับเชิญไปร่วมออกงาน แต่ส่วนใหญ่จะเป็นงานที่จัดโดยภาครัฐ ทำให้เราไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเช่าพื้นที่ในราคาที่สูงมาก ซึ่งส่งผลทำให้ไก่บ้านต้มน้ำปลาอ่างทองขายในราคาถูก เมื่อเทียบกับรายอื่นๆที่มักจะซื้อไก่จากตลาดสดทำให้ต้องขายราคาแพง ปัจจุบันราคาขายของไก่บ้านต้มน้ำปลาอ่างทอง อยู่ที่ตัวละ 140 บาท ถึง 160 บาท แล้วแต่ขนาดของไก่ เฉลี่ยขนาดน้ำหนักของไก่หนึ่งตัว อยู่ที่ 2.5 กิโลกรัม ซึ่งไก่ที่นำมาทำในครั้งนี้จะเลือกไก่บ้าน เพราะเนื้อจะไม่ยุ่ย และจะไม่มันมากเหมือนไก่ที่เลี้ยงตามฟาร์ม ที่สำคัญเป็นการเลี้ยงตามธรรมชาติไม่มีสารเร่งที่เป็นสารเคมีเจือปน โดยไก่ที่ได้นำมาจากจังหวัดอยุธยา และอ่างทอง